ก่อนอื่นขอให้อ่านตรงนี้แล้วทำความเข้าใจก่อนนะครับ ต้องบอกก่อนว่าผมไม่ได้เก่งอะไร (ยังขาดทุนอยู่เยอะครับ ชนะความโลภตัวเองไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ) ประสบการณ์ที่มียังไม่มาก แต่บางอันสังเกตเห็นอะไรแปลกๆในตลาด ก็จะนำมาแบ่งปันเผื่อเป็นความรู้แก่ท่านอื่นต่อไป และที่ผมแชร์เรื่องนี้เพราะ ต้องการให้ทราบคร่าวๆเท่านั้น (ย้ำครับว่าคร่าวๆ) **โดยสิ่งที่นำมาเขียนนั้นก็จะมาจากประสบการณ์ของผมเอง ซึ่งก็อาจจะมีผิดพลาดบ้าง แต่จะพยายามแก้ไขต่อไปครับ ไม่ได้มาจากหนังสือนะครับ เพราะฉะนั้นข้อมูลอาจจะน้อยหรือไม่ถูกต้องหรือไม่ละเอียด ซึ่งมันคือความจงใจของผมที่จะสื่อให้มันสั้นและเข้าใจง่ายและมาจากความเข้าใจของผมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้และไม่มีเจตนาที่จะให้ความรู้ที่ผิดๆแก่ผู้อ่านนะครับ โดยส่วนตัวผมมองว่ารู้ในเบื้องต้นที่ผมเขียนไป ก็สามารถเป็นแนวทางในการให้ผู้อ่านลองนำไปใช้ได้บ้างแล้ว ส่วนท่านอื่นหากต้องการหาข้อมูลเชิงลึกต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ท่านอื่นๆที่ไม่ค่อยรู้ ขอให้ความเข้าใจก่อนอ่านด้วยครับ**********
มาเริ่มกันที่หัวข้อนะครับ ทำไมผมถึงตั้งหัวข้ออย่างนี้ ? สำหรับผมการคััดหุ้นที่มีท่าทีว่าพรุ่งนี้จะเปิดโดด/เปิดแล้วไปได้สวยนี้ สิ่งที่ผมจะดูเป็นอย่างแรกคือ bid offer ตอน ATC แต่ถ้าจะให้เข้าไปไล่ดูรายละเอียดทุกตัวคงจะเป็นไปไม่ได้ เลยจะดูคร่าวๆจาก watchlist เท่านั้น
โปรดสังเกตรูปด้านล่างเนี้ย เราจะเห็นได้เลยว่า ฝั่ง bid น้อยกว่าฝั่ง offer มาก (หมายความว่ามีแต่แรงขาย) ซึ่งเมื่อดูเผินแล้วๆ หุ้นตัวนี้มันจะไม่น่าสนใจแล้ว มันทำให้ผมมองข้ามบางสิ่งบางอย่างไป แต่มันไม่น่าสนใจจริงหรือไม่ ค่อยๆอ่านไปนะครับจะค่อยๆเข้าใจในสิ่งที่ผมจะสื่อเอง
ก่อนอื่น มาดูก่อนว่า ATO/ATC สำคัญยังไง (คร่าวๆเท่านั้น)
ATO เพราะบางครั้ง หุ้นจะวิ่งแล้ว ถ้าจะให้เราไปรอซื้อตอนตลาดเปิด ไม่ทันแน่ เราจึงต้องซื้อตั้งแต่ตอน ATO ครับ เป็นต้น
ATC สาเหตุเพราะ บางครั้งเราอาจจะมีความจำเป็นที่จะต้องห่อหุ้นกลับบ้าน เพราะว่าพรุ่งนี้หุ้นอาจจะเปิดโดด ซึ่งเราอาจจะได้กำไรจากช่องว่างตรงนี้ได้ เป็นต้น
ในช่วงATO/ATCเราสามารถจะคาดการณ์ราคาที่จะเปิด/ปิดได้ โดยดูจากรูปข้างล่างนี้
ตัว ATC ทั้ง 2 ฝั่งที่ผมวงไว้จะมีผลต่อราคาเปิด/ปิดของหุ้นตัวนั้น โดยราคาคาดการณ์เปิดปิดของหุ้นตัวนั้น ก็คือ ตัววงกลมที่ผมโยงลูกศรไปนั่นแหละ วงกลมด้านขวามือ (1.21)ที่ผมวงไว้ครับ
เพราะฉะนั้นถ้าเราต้องการจะดูว่าราคามันน่าจะเปิด/ปิดเท่าไหร่ ให้ดู วงกลมด้านขวามือ (1.21) เป็นหลักครับ และให้ดูช่วงที่มันใกล้จะปิดจริงๆเท่านั้นนะครับ (เช่น 16.35-16.40 เป็นต้น) เพราะไม่งั้นอาจเจอการตั้ง bid offer หลอกได้

ATO เพราะบางครั้ง หุ้นจะวิ่งแล้ว ถ้าจะให้เราไปรอซื้อตอนตลาดเปิด ไม่ทันแน่ เราจึงต้องซื้อตั้งแต่ตอน ATO ครับ เป็นต้น
ATC สาเหตุเพราะ บางครั้งเราอาจจะมีความจำเป็นที่จะต้องห่อหุ้นกลับบ้าน เพราะว่าพรุ่งนี้หุ้นอาจจะเปิดโดด ซึ่งเราอาจจะได้กำไรจากช่องว่างตรงนี้ได้ เป็นต้น
ในช่วงATO/ATCเราสามารถจะคาดการณ์ราคาที่จะเปิด/ปิดได้ โดยดูจากรูปข้างล่างนี้
ตัว ATC ทั้ง 2 ฝั่งที่ผมวงไว้จะมีผลต่อราคาเปิด/ปิดของหุ้นตัวนั้น โดยราคาคาดการณ์เปิดปิดของหุ้นตัวนั้น ก็คือ ตัววงกลมที่ผมโยงลูกศรไปนั่นแหละ วงกลมด้านขวามือ (1.21)ที่ผมวงไว้ครับ
เพราะฉะนั้นถ้าเราต้องการจะดูว่าราคามันน่าจะเปิด/ปิดเท่าไหร่ ให้ดู วงกลมด้านขวามือ (1.21) เป็นหลักครับ และให้ดูช่วงที่มันใกล้จะปิดจริงๆเท่านั้นนะครับ (เช่น 16.35-16.40 เป็นต้น) เพราะไม่งั้นอาจเจอการตั้ง bid offer หลอกได้
ต่อมา เข้าเรื่องหลักนะครับ ลองดูรูปข้างบนนะครับ นี่คือ ATC ของวันที่ 2 ตค 57 ซึ่งดูแล้วก็คิดว่า เห้ย !! แทบทุกตัว ทำไม ฝั่งขาย มันเยอะไปหมด ฝั่งซื้อนิดเดียว ราคาต้องปิดต่ำกว่าตอนก่อน ATC แน่ๆ ซึ่งตรงนี้เอง ที่มันทำให้เราดูเผินๆแล้วว่า เห้ยหุ้นตัวนี้มันไม่น่าเข้าหรอก เพราะแรงขายเยอะ ซึ่งบางทีมันก็ทำให้เราพลาดหุ้นบางตัวที่เขา(เขานี่ใครก็ไม่รู้นะ อิอิ) แอบเก็บไป ณ ช่วงนี้ได้
เมื่อเราคาดการณ์คร่าวๆอย่างเช่น หุ้นชื่อ MIDA ตามปกติ sense ทั่วไปของมนุษย์ (ย้ำนะครับมองแบบคนปกติ) แรงซื้อ 7 เกือบ 8ล้าน แรงขาย 31 ล้าน โอ้โห ไม่เหลือแน่นอน เมื่อเทียบกับก่อนตลาดปิดยืนอยู่ที่ 1.22 ถ้าเจอแรงซื้อแรงขายขนาดนี้ ราคาไม่น่าจะเหลือ ผมเลยลองกดเข้ามาดูข้างใน
แต่ปรากฎว่าเห้ย แรงขายตั้ง 31 ล้าน ซื้อแค่ 7 ล้านเกือบ 8 ทำไม ราคามันอยู่ 1.21 ได้ มันน่าแปลก
ผมจึงได้คำตอบมาตอบตัวเองว่า (จากการสังเกตของผมเอง ไม่ได้อ่านหนังสือมานะครับ เพราะฉะนั้นโปรดใช้วิจารณญาณด้วย) เห็นที่ผมวงไว้ 2 วงแดงๆไหมครับ นี่คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคา MIDA ยังยืนอยู่ 1.21 ได้ วิธีดูนะครับ จากหุ้น Mida ให้คิดราคาที่ 1.22 ยืนพื้นไว้นะครับ (ราคาก่อนปิด) แล้วดู BID,OFFER แต่ละฝั่ง
ลองดูฝั่ง Bid นะครับ จะเห็นว่า จริงๆ มันควรจะเรียงจาก ATC 1.22>1.21>1.20>1.19 (สำหรับหุ้นบางตัว) หรือเหมือนตามปกติตอนที่เราเทรด/ตลาดเปิด แต่นี้มันมายังไง 1.31>30>28>27
ไม่แปลกครับ การตั้งซื้อแบบในรูปที่ผมลง แบบนี้ก็สามารถที่จะซื้อหุ้นในช่วงก่อนตลาดปิดได้ครับ โดยไม่จำเป็นต้องตั้งในรูปของ ATC อย่างเดียว แต่อาจจะตั้งซื้อโดยกำหนดราคาไว้ ช่วงก่อนตลาดจะปิด เช่น อาจจะเลือกที่จะไม่ตั้งซื้อในเป็นรูปแบบของ ATC แต่คีย์ตั้งระบุราคาขายแบบปกติก็ได้ครับ เช่น ขาย 1000 หุ้นที่ราคา 1.31 หรือ 1.23 , 1.10 แล้วแต่ท่านจะตั้ง แต่จะได้หุ้นหรือไม่ได้ อันนี้เป็นอีกเรื่องนะครับ
ซึ่งการสั่งซื้อตรงฝั่ง Bid นี้เอง (ราคาล่าง ATC ฝั่ง BID) กับ ตัว ATC ฝั่ง BID จะมีผลต่อราคาเปิด/ปิด เช่นเดียวกัน (มีผลต่อ>1.21วงขวาที่ผมได้อธิบายข้างต้น)
ส่วนทางด้าน offer ก็เช่นเดียวกัน การจะขายหุ้นฝั่ง offer บางครั้งอาจจะไม่ได้ตั้งในรูปของ ATC ไว้โดยฝั่ง offer อาจจะตั้ง โดยใช้วิธีกำหนดราคาขาย (เหมือนที่ผมได้กล่าวไปข้างต้นเกี่ยวกับการกำหนดราคาขายของ BID) ซึ่งจะขายหุ้นได้หรือไม่นั้นอีกเรื่อง ซึ่งราคาตรงนี้เอง (ที่ผมวงแดงๆไว้และราคา ATC ตรงฝั่ง offer)จะมีผลต่อราคาคาดการณ์ทางขวามือที่ผมได้วงไว้ครับ (1.21) ***EDIT (ตรงนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจยากมากครับ ผมก็พยายามศึกษาอยู่ แต่คร่าวๆเท่านี้ครับ ผิดถูกประการใดขออภัย)
เพราะฉะนั้นโดยสรุปแล้วจะเห็นได้ว่า การไม่ใช้วิธีขายแบบ ATC นั้น อาจเพราะไม่ต้องการเรียกคนเข้ามาซ้ื้อ ณ เวลานั้น (จะในกรณีไหนก็ไม่รู้แหละ แต่ที่แน่ๆคืออาจจะไม่ต้องการให้รู้) หรืออาจจะไม่ต้องการให้พบจำนวนที่แท้จริงที่รอซื้ออยู่ก็เป็นได้ หรือเป็นกรณีใดๆก็แล้วแต่ เพราะฉะนั้นจึง"อาจจะ"เป็นการตั้ง ATC ฝั่ง bid ในจำนวนน้อยๆเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของนักลงทุน/นักเก็งกำไร ที่ดูแต่ใน Watchlist โดยไม่ได้กดเข้ามาดู เพื่อให้ดูว่าหุ้นตัวนั้นไม่น่าสนใจเลย ซึ่งบางทีการที่ฝั่ง bid ตรง ATC น้อยกว่า offer ฝั่ง ATC ไม่ได้หมายความว่าหุ้นตัวนั้นจะต้องราคาลงเสมอไป
แต่พอเข้ามาดูจริงๆแล้ว ก็จะเห็นได้เลยว่ามันไม่เป็นไปอย่างที่คิด เพราะสุดท้ายวันนั้นราคามาปิดที่ 1.22 ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้เลย ถ้าเราดูเพียงแค่ watchlist
"เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่ตาเห็นจนกว่าจะได้ลองเข้ามาดูและวิเคราะห์ครับ อิอิ "
จะได้ไม่พลาดนะครับบ
หรือสรุปยิ่งกว่านั้นคือ จะบอกว่า การที่เราเห็น ATC ฝั่ง BID น้อยกว่าฝั่ง offer ไม่ได้หมายความว่ามันจะน่ากลัวเสมอไปครับ ให้เข้ามาดูก่อน จบ ;)))
ลองดูนะครับ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยแก่ผู้อ่านทุกท่าน ผิดพลาดประการใดขออภัยครับ **หากอ่านแล้วเกิดข้อสงสัยหรือเคลือบแคลงใจ โปรดอ่านข้อความตอนต้นใหม่ครับ..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น