วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2557

การตั้งราคาขายสินค้า ควรอยู่กับหลักสุจริตหรือไม่

การที่พ่อค้าตั้งราคาสินค้าให้สูงเพื่อเอากำไร โดยที่รู้ข้อเท็จจริงบางประการนั้น มันฝ่าฝืนหลักสุจริตหรือฝ่าฝืนศีลธรรมอันดีหรือไม่ ?

พอดีไปอ่านหนังสือมาเจอเรื่องนี้ ซึ่งน่าสนใจ เพราะปัจจุบันคนค้าขายเยอะ และไม่ว่าในธุรกิจไหนก็ตาม คนขายทุกคนย่อมต้องการที่จะมีกำไร ซึ่งจริงๆแล้วมันเป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่
* แต่ทั้งนี้จะต้องพิจารณาถึงประเพณี ธรรมเนียมปฏิบัติของแต่ละประเทศด้วยนะจ๊ะ
ซึ่งเรื่องนี้เคยมีการถกเถียงกันมาตั้งแต่สมัยนู้นนนนนแล้ว แล้วก็ถกเถียงกันมาตลอดดดดด



          ซิเซโร นักปราชญ์ ได้ยกคดีตัวอย่างเรื่องหนึ่งขึ้น EX พ่อค้าธัญญพืชรายหนึ่งบรรทุกสินค้าจากเมืองอาเล็กซานเดรีย เตรียมมาจำหน่ายที่เกาะโรเด็ซ ซึ่งขณะนั้นเกาะโรเด็ซกำลังตกอยู่ในภาวะแห้งแล้งและเกิดทุพภิกขภัย โดยที่พ่อค้ารายนี้นำสินค้าเดินทางมาถึงเกาะโรเด็ซก่อนรายอื่นและรู้ดีอยู่ว่าขณะนั้นมีเรือพ่อค้ามากมายกำลังบรรทุกธัญญาหารจำนวนมากมุ่งมาจำหน่ายที่เกาะโรเด็ซ แต่ชาวเกาะโรเด็ซยังไม่รู้ถึงข้อเท็จจริงนี้ ดังนี้ก่อนที่เรือเหล่านั้นจะมาถึง หากพ่อค้าคนแรกที่มาถึงจะบอกขายสินค้าในราคาสูง เขาก็จะค้าขายได้กำไรงาม
          แต่ซิเซโรตั้งคำถามขึ้นว่า พ่อค้าที่ดีมีหน้าที่บอกความจริงข้อนี้หรือไม่ ? และการที่ผู้ขายสินค้ารายนี้งดเว้นไม่แจ้งให้ชาวเกาะทราบว่ากำลังมีเรือบรรทุกธัญญาหารจำนวนมากมุ่งหน้ามาทางนี้จะถือว่าเขาปกปิดไม่บอกกล่าวข้อเท็จจริงอันพึงแจ้งให้ผู้ซื้อทราบ และจะถือได้ว่าเขาปฏิบัติตนฝ่าฝืนหลักสุจริต หรือฝ่าฝืนศีลธรรมอันดีหรือไม่
          ซิเซโรได้ให้ความเห็นว่า กรณีนี้ไม่ต่างจากกรณีที่ผู้ขายตกลงขายทรัพย์สินแก่ผู้ซื้อโดยที่รู้อยู่แล้วว่าทรัพย์สินอันนั้น มันชำรุดบกพร่อง โดยกรณีนี้นับเป็นกรณีที่ผู้ขายถือเอาประโยชน์จากความรู้ข้อเท็จจริงของตนหรือความไม่รู้ข้อเท็จจริงของผู้อื่นไปในทางเสียเปรียบ ซึ่งซิเซโรมองว่าขัดต่อมาตรฐานการเป็นพ่อบ้านที่ดี (vir bonus)
          ปัญหาข้อนี้เป็นที่ถกเถียงกันหลายฝ่าย ทางด้านหนึ่งได้กลายเป็นหลักห้ามเอาเปรียบเกินสมควรแก่เหตุ หรือห้ามค้ากำไรเกินควรหรือ laesio enormis
          แต่อีกด้านหนึ่งก็มีผู้เห็นแย้งว่า การค้าย่อมต้องแสวงหากำไรดังนั้น คู่กรณีในสัญญาย่อมมีสิทธิโดยชอบที่จะคิดราคาตามที่ตนเห็นสมควร และย่อมมีอิสระในการคิดราคาแพงกว่าหรือถูกกว่าท้องตลาดได้ (invicem se circumvenire) ดังนั้นการนิ่งไม่แจ้งให้คู่กรณีรู้ถึงพฤติการณ์อันกระทบถึงราคาสินคเาย่อมไม่เป็นข้อพึงตำหนิ เว้นแต่จะมีพฤติการณ์อย่างอื่นที่ก่อให้เกิดหน้าที่เปิดเผยข้อเท็จจริงระหว่างกันเกี่ยวกับพฤติการณ์เช่นนั้น
         ซึ่งกรณีเช่นนี้ เราอาจอธิบายได้ว่าซิเซโรเห็นว่าเป็นกรณีที่ประชาชนบนเกาะโรเด็ซควรมีสิทธิรู้ว่าเรือค้าธญญพืชลำอื่นกำลังเดินทางมา ตามหลักที่ถือว่า สุจริตชนพึงเอาใจเขามาใส่ใจเรา แม้ว่าจะมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับซิเซโร แต่ฝ่ายที่สนับสนุนก็ได้พัฒนาแนวคิดจากข้อโต้แย้งดังกล่าวมาสู้หลักราคาสมควร หรือ iustum pretium หรือหลัก lesion (laeson enormis)
         ในศตวรรษที่ 19 อันเป็นยุคแห่งประมวลกฎหมาย โดยเริ่มจากประมวลกฎหมายแพ่งของออสเตรียได้ว่าหลักว่า การตกลงเอาเปรียบโดยคิดราคาสูงหรือต่ำเกินกว่าสมควรแก่เหตุ เมื่อคิดเทียบกับการชำระหนี้ตอบบแทน ถึงขนาดเกินกว่าหนึ่งเท่าตัว ย่อมเป็นการอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย
          (มาตรา 934 ของประมวลกฎหมายแพ่งของ
ออสเตรีย,มาตรา 21 แห่งประมวลกฎหมายลักษณะหนี้ของสวิส,มาตรา 2589 ของประมวลกฎหมายแพ่งของมลรัฐหลุยส์เซียน่า)

Credit รูป : กฎหมายหน้ารู้,ซิเซโร, at http://lawtoknow.blogspot.com/2009/12/scipionic-cricle-3-check-and-balance.html, (last visited 28 september 2014)
Credit เนื้อหา : กิตติศักดิ์ ปรกติ, หลักสุจริตและเหตุเหนือความคาดหมายในการชำระหนี้ (กรุงเทพมหานคร : วิญญูชน) 2554. หน้า 24-26

ไม่มีความคิดเห็น: