วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2557

ขั้นตอนแรกของการจะเล่นหุ้น (จากประสบการณ์ตนเอง)



    ก่อนอื่นขอให้อ่านตรงนี้แล้วทำความเข้าใจก่อนนะครับ** ต้องบอกก่อนว่าผมไม่ได้เก่งอะไร และประสบการณ์ยังไม่มาก เพียงแต่อยากจะแบ่งปันประสบการณ์ครับ และที่ผมแชร์เรื่องนี้เพราะ ผมต้องการให้ทราบเกี่ยวกับการเปิดคร่าวๆเท่านั้น โดยสิ่งที่นำมาเขียนนี้มาจากประสบการณ์ของผมเอง (ขอย้ำนะครับว่าประสบการณ์ผมเองเท่านั้น) ไม่ได้มาจากหนังสือแต่อย่าใด เพราะฉะนั้นข้อมูลอาจจะน้อยหรือไม่ถูกต้อง(เป๊ะตามหลักวิชาการตามที่หนังสือเขียน)หรือไม่ละเอียด ซึ่งมันเป็นความจงใจของผมที่จะสื่อให้มันสั้น อ่านง่ายและมาจากความเข้าใจของผมเอง โดยไม่ได้มีเจตนาที่จะให้ความรู้ที่ผิดๆครับ โดยตัวผมมองว่าในการปฎิบัติหากเข้าใจเบื้องต้นเพียงเท่านี้ (เหมือนที่ผมก็สามารถทำมาได้) ก็สามารถเริ่มในเบื้องต้นได้แล้ว ส่วนท่านจะไปหาข้อมูลเพิ่มเติมอันนี้แล้วแต่ท่านครับผม ดังนั้นข้อมูลที่ผมเขียนอาจจะไม่ตรงและละเอียดตามความรู้ของใครหลายคนครับ ขอให้ทำความเข้าใจก่อนอ่านด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

การเริ่มเล่นหุ้นขั้นแรก สำหรับคนที่อยากจะเล่น
เบื้องต้น และคร่าวๆ


     การเล่นหุ้น มันอาจดูเหมือน ความเสี่ยงมันน่ากลัวนะ หรือ มันเท่ดีนะ มันคือการลงทุน หลากหลายมุมมอง แต่พอมาเล่น มันก็น่ากลัวจริงครับ และมันก็เท่จริงครับ ฮ่าๆๆๆๆ หลายคนเจ๊งได้ แต่ก็มีหลายคงที่ยังยืนอยู่ได้ ทุกอย่างมันมีสองด้านเสมอ แล้วจำเป็นเหรอว่าเราจะต้องประสบความสำเร็จ กลับกัน แล้วจำเป็นเหรอว่าเราต้องล้มเหลว... ซึ่งผมเชื่อว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จและผู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จต้อง ผ่านมาจากจุดนี้ทั้งนั้น  คือ ต้องคิด และต้องอยากจะเริ่ม และเมื่อเริ่มเข้ามาในตลาด การจะล้มเหลวหรือประสบความสำเร็จจนั้น ผู้ลงทุนจะเป็นคนเลือกเอง "เพราะเป้าหมายที่ชัดเจนจะทำให้รู้ว่า เราควรทำอย่างไร เราจึงจะไปสู่เป้าหมายที่เราวางไว้ได้" หรือถ้าจะพูดจริงๆ ไม่ใช่แค่เรื่องการเล่นหุ้นเท่านั้น ไม่ว่าเราทำอะไรก็ตาม หากเราไม่มีความรู้ หรือไม่มีความตั้งใจเพียงพอที่จะศึกษาค้นคว้า / พัฒนาตัวเราต่อไป ไม่ว่าทำอะไรก็ไปไม่สุดครับ ;))
    การเล่นหุ้นมีหลากหลายแนว นักลงทุน นักเก็งกำไร นักเล่นรายวัน อันนี้แล้วแต่สไตล์คนนะครับ ถ้าชอบเสี่ยงน้อยหน่อย ก็เล่นนักลงทุนไป ถือยาวๆไปไม่ต้องคิดมาก กินปันผล แต่ถ้าเป็นนักเก็งกำไรหรือนักเล่นรายวัน อันนี้ก็ควรจะมีเวลาให้กับมันเยอะๆหน่อยนะครับ เพราะแค่ไปเข้าห้องน้ำนี่ อาจจะเปลี่ยนชีวิตคุณได้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ เลือกให้เหมาะกับที่ตัวเองชอบครับ
แล้วเราจะรู้ได้ไงหล่ะว่าเราชอบบแบบไหน ? ก็ถึงบอกไง ว่าต้องลองงงงงงงงงง !!!!!

    มาเริ่มในส่วนที่แนะนำ
อันนี้ผมจะแนะนำสำหรับสไตล์ของผมนะครับ อาจจะไม่ค่อยเหมือนคนทั่วไปหรือ
ก็อาจจะเหมือนคนทั่วไปก็ได้ ลองอ่านกันดู สิ่งแรกที่นักลงทุน/คนที่อยากจะเล่นหุ้น ต้องมี คือ เงิน (จำนวนน้อยก็ได้ ไม่ต้องซีเรียส) และต้องมีพอร์ต (ในกรณีที่คุณจะเล่นเองนะครับ)
       เงิน อาจจะตีต่ำไว้สักหมื่นครับ ซึ่งถ้าเราไม่เอาไปเล่นพิศดารจริงๆ เงินมันไม่หมดหรอกครับ และถึงอย่างไร ถ้าเราไม่ trade ในตลาดหุ้นเลย เราก็ได้ดอกเบี้ยครับ คล้ายการฝากเงินเลย (แต่ทั้งนี้แล้วแต่นโยบายของแต่ละบริษัทนะครับ ลองศึกษาด้วย) สำหรับมือใหม่ ไม่ควรเกินนี้ครับ เพราะยังไม่รู้จักตลาด ยังไม่รู้ว่าซื้อตรงไหน ขายตรงไหน เพราะฉะนั้นการเอาเงินลงพอร์ตเยอะตอนแรก ไม่ได้เท่ครับ แต่มันจะทำให้คุณเจ๊งได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โปรดระวัง !!! แต่ถ้าตังเหลือจะเอาลงไปก็ได้นะ ตามใจสมัครครัช
       พอร์ต (portfolio) มีไว้เพื่อที่เราจะมีบัญชีมาเล่นหุ้นได้ ถ้าเราไม่มีพอร์ตเราก็ไม่สามารถเล่นหุ้นได้ และจะมีไว้แสดงรายการเวลาเราสั่งซื้อ/สั่งขายหุ้น แสดงยอดเงินที่เรามี คีย์คำสั่งซื้อคำสั่งขาย แสดง%ที่ได้กำไร แสดงต้นทุนหุ้นที่ซื้อ และยังแสดงได้อีกหลากหลาย.... ซึ่งต้องเห็นเองแล้วจะเข้าใจ
       นี่คือ เหตุนึงที่ผมไปเปิดพอร์ตเลย ไม่ใช่เพราะผมใจร้อนหรืออยากเสียเงินนะ แต่ลองอ่านแล้ว มันอ่านไม่รู้เรื่อง หนังสือหุ้นที่ว่าง่าย ถ้าไม่เคยจับพอร์ตไม่เคยรู้จัก bid offer ก็ งง ครับ เพราะฉะนั้นลงมือเลยพอเห็นภาพแล้วมันก็อาจจะไม่ยากเหมือนในตำรา (อาจเปรียบเสมือนการเรียนกฎหมายวิธีสบัญญัติ ที่ตอนเรียนก็ งง แล้ว งง อีก ว่ามันเป็นยังไง เพราะเราไม่เคยเห็นภาพ ซึ่งคาดว่าหากได้ทำงานหรือเดินทางไปศาล และได้เห็นกระบวนการพิจารณาบ่อยๆ ก็จะเข้าใจได้ง่ายขึ้น) และการเปิดพอร์ต ใช้เวลาหลายวันอยู่ เพราะฉะนั้นถ้าอยากรีบศึกษาควรเผื่อเวลาไว้ด้วย ไม่งั้นจะเหมือนอย่างผม อยากเล่นแทบเป็นแทบตาย (เป็นคนใจร้อน) พอบทเข้าจริงๆ กว่าธนาคารจะติดต่อกลับมา ใช้เวลานาน (นานจนไม่อยากจะเล่นแล้วก็ว่าได้) ฮ่าๆๆ
     วิธีการในการเปิดพอร์ต เลือกธนาคาร(ที่ผมใช้คำว่า ธนาคารเพราะว่าส่วนใหญ่ จะเป็นธนาคารนะครับ)หรือโบรกเกอร์/บริษัทในตลาดหลักทรัพย์(ซึ่งผมจะทิ้งรายชื่อ Link ไว้ท้ายบทความนะครับ) ที่เราสนใจครับ คำว่าสนใจในที่นี้ แล้วแต่บุคคลนะครับ ว่าจะใช้มันในลักษณะแบบไหน เช่น บางคนอาจจะชอบชื่อเสียงของบริษัทนั้นๆ หรือบางคนอาจจะชอบเพราะมันไม่คิดค่าธรรมเนียมในการ trade ซึ่งเหตุผลหลัง คือ เหตุผลที่ผมเลือกในการจะเปิดพอร์ตกับบริษัทใดบริษัทหนึ่งครับ แต่สำหรับผม ผมเป็นคนที่งบน้อย เวลา trade ,trade ทีละไม่เยอะ เพราะฉะนั้นถ้าเจอค่าธรรมเนียมขั้นต่ำไปจุกครับ
     ค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ คือ ... ในบางบริษัทเขาจะกำหนดไว้ว่า หากคุณ trade ไม่เกินจำนวนที่เขากำหนดไว้ ค่าธรรมเนียมในการซื้อคิดอัตรานี้... และคิดค่าธรรมเนียมในการขายในอัตราเดียวกัน งงสิ สมมติเช่น อาจจะกำหนดว่า หากผู้เปิดบัญชี (พอร์ต) กับบริษัท A หากท่าน trade ไม่เกิน 10000 ต่อวัน จะต้องเสีย 50 บาท ต่อการซื้อ 1 ครั้ง และการขาย 1 ครั้ง (2เด้งเลยเหรอ ใช่ครับ เข้าใจไม่ผิด) ซึ่งผมดูว่าตรงนี้มันแพงมาก และอันนี้ยังไม่รวม Vat ที่เราจะต้องถูกหักอีกนะครับ เพราะฉะนั้น บางที เราซื้อได้กำไรมา 1 ช่อง พอขาย สมมติได้กำไรมา 100 ถ้าคุณมีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำไป เทียบได้ว่า 100 ที่ได้มานั้นแทบจะหมดไปเลยก็ได้ เพราะโดนค่าธรรมเนียมขั้นต่ำไปก็ครั้งละ 50 ละ ซื้อครั้ง ขายครั้ง ก็100 และครับ ดีไม่ดีอาจจะติดลบด้วย ยัง 50+50 นี้ยังไม่รวม Vat นะครับ เพราะฉะนั้น มือใหม่ควรเลี่ยงก่อน
   ควรเลือกบริษัท/ธนาคาร ที่ไม่คิดค่าคอมขั้นต่ำ เพราะเขาจะคิดตามจริง ซึ่งมันจะถูกกว่าค่าขั้นต่ำรายวัน โดยวิธีการคิดคือ (ราคาหุ้นที่คุณสนใจxจำนวนหุ้นที่จะซื้อ)x0.1578หาร100=(x) และนำผลรวม x ที่ได้นั้น มาคูณ 7 หารด้วย 100 แล้วบวกทั้งหมด ตัวอย่างเช่น 1.31x3000= 3930 x0.1578หาร 100 = 6.20154 และนำ 6.20154x7หาร100 = 0.4341078 = เราจะเสียค่าเทรดครั้งนี้คือ 3930+6.20154+0.4341078 = 3936.63565 หรือเท่ากับค่าธรรมเนียมการซื้อครั้งนี้ 6 บาทติ๊สๆๆ และเวลาขายก็ต้องคิดในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน เทียบตัวเลขเอาเองนะจ๊ะ เพราะฉะนั้นเมื่อเทียบกันแล้วจะเห็นได้เลยว่า ถ้าเรา trade น้อยๆ และกำลังหาประสบการณ์ ควรจะเลือกบริษัท/ธนาคารประเภทนี้ (ไม่มีค่าขั้นต่ำ) เพื่อประหยัดเงินในกระเป๋าเราครับ
    เมื่อเราเลือกบริษัท/ธนาคารที่ไม่มีขั้นต่ำได้และ ก็ควรเลือกบัญชีแบบประเภท Cash balance ซึ่งก็คือ การที่จำนวนเงินจะขึ้นในพอร์ตเราได้(วงเงินที่เราจะเล่นหุ้นได้) จะต้องมีการฝากเงินเข้าไปเท่านั้น ฝากเท่าไหน ตัวเลขที่เราจะ trade ได้ก็จะมีเท่านั้น เช่นฝากไป 10,000 ก็เทรดได้แค่ 10,000 เป็นสิ่งที่ดีมากๆสำหรับมือใหม่ครับ ยังไม่ควรไปใช้แบบที่ทางบริษัท/ธนาคารสามารถออกวงเงินให้ได้ หรือที่เรียกว่า มีเครดิต เพราะเครดิตนี้แหละ ทำหลายคนเครียดมาแล้ว เช่น เมื่อไปเปิดพอร์ตกับทางบริษัท/ธนาคาร ทางบริษัท/ธนาคารก็จะดูบัญชีรายรับรายจ่ายย้อนหลัง และจะประเมิณเครดิตให้ และก็จะกำหนดเครดิตให้ (อันนี้เดานะ ประมาณๆเอา) ซึ่งหมายความว่าเราสามารถ trade เกินวงเงินที่เรามีอยู่ได้ เพราะฉะนั้นโปรดระวังในการเทรดด้วยจ่ะ และยิ่งถ้าเอาเงินพ่อเอาเงินแม่ไป trade นะ ควรคิดให้มากๆนะจ๊ะ
   สิ่งที่จะต้องนำไปด้วยตอนไปเปิดพอร์ต อันนี้จำไม่ได้และ ส่วนใหญ่ก็ บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน แล้วก็ไปกรอกแบบฟอร์มของแต่ละบริษัท และก็เตรียม book bank ของธนาคาร(ธนาคารอะไรก็ได้ที่เรามี)ไปด้วย เพื่อที่จะผูกกับบัญชีในพอร์ต เวลาเราต้องการจะถอนเงิน ทางธนาคารก็จะโอนเงินเข้ามาในบัญชีตามที่เราได้แจ้งไว้ตอนแรกนั้นแหละะะะะะะะะะะ
   เพราะฉะนั้นถ้าสนใจธนาคาร/บริษัทไหน ควรโทรไปถามทางธนาคาร/บริษัทเขาก่อนนะจ๊ะ ว่าถ้าจะเปิดแบบนี้ ไม่มีค่าธรรมเนียมแบบนี้ ทางธนาคาร/บริษัทต้องใช้หลักฐานอะไรบ้าง (เพราะแต่ละธนาคาร/บริษัทไม่เหมือนกัน) แล้วก็รอการติดต่อกลับมาของทางธนาคาร/บรัษทครับ ถ้าเขาติดต่อมาว่าเล่นได้ ก็นั่นแหละครับ โหลด app streaming pro ไว้เลย แล้วก็ลุยยยยยย ไปหาประสบการณ์กัน
* ถ้าอยากรู้อะไร หรือ ไม่เข้าใจอะไร "GOOGLE" ช่วยท่านได้ครับ Search ไปเลย ความรู้ทั้งนั้น

ศึกษาต่อได้ที่ ; รายชื่อสมาชิกในตลาดหลักทรัพย์ http://www.set.or.th/set/memberlist.do?language=th&country=TH


   สุดท้ายนี้ ทุกศาสตร์ล้วนต้องอาศัยความรู้ > แล้วความรู้จะนำไปสู่โอกาส > โอกาสจะนำไปสู่ความสำเร็จ ;))) สู้ๆจ่ะ ไปเขียน THESIS ต่อละ ลาก่อยยยยยยยยย เจอกันบทความหน้า

ไม่มีความคิดเห็น: